- Home
- Blog
- ความรู้เด็ก
- การดูแลเด็กในช่วงเรียน online
การดูแลเด็กในช่วงเรียน online
การดูแลเด็กในช่วงเรียน online
โดย แพทย์หญิงพิชยา พูลสวัสดิ์ กุมารแพทย์พัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเรียนที่เหมาะกับเด็กมากที่สุดคือการเรียนที่โรงเรียน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเรียน online เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก สำหรับผู้ปกครองนับเป็นความท้าทายในการช่วยเหลือลูกในด้านการเรียน แต่หมอเชื่อว่าผู้ปกครองทุกท่านสามารถให้ความเชื่อเหลือลูกๆได้ดีที่สุดเท่าที่พ่อแม่จะทำได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ หมอจึงอยากแชร์และอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาทบทวนการดูแลลูก ๆ ในช่วงที่ต้องเรียน online เพื่อให้การเรียนของเด็ก ๆ ได้ผลดีขึ้นและทุกคนในครอบครัวมีความสุขมากขึ้นค่ะ
- สถานที่
สถานที่เรียน online ควรเป็นมุมสงบ ไม่มีเสียงดัง ไม่มีสิ่งเร้ารบกวน ไม่ควรมีจอทีวีหรือจออื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียน ถ้ามีพี่น้องควรจัดที่นั่งแยกกันหรือแยกห้องเพื่อไม่ให้เด็กกวนกัน
- จัดตารางเวลา
ควรจัดกิจวัตรประจำวันให้เป็นเวลา พยายามให้คล้ายกับเวลาที่ไปโรงเรียนให้มากที่สุด เช่น เวลาตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว เวลาเข้านอน เวลาทำการบ้าน หรือเวลาเล่น เป็นต้น การจัดตารางเวลาที่ดีและสม่ำเสมอจะช่วยให้เด็กมีวินัย ฝึกความรับผิดชอบ และช่วยลดความขัดแย้งเวลาเด็กไม่ยอมทำงานหรือมีข้อต่อรองเพราะติดเล่นได้ค่ะ
- พักสายตา
การจ้องหน้าจอนานทำให้ตาอ่อนล้า ตาแห้ง อาจมีตามัวได้ เด็ก ๆ ควรพักสายตาเป็นระยะโดยใช้หลัก 20/20/20 คือ พักสายตาจากจอทุก 20 นาที มองสิ่งของไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที และอย่าลืมกระพริบตาเป็นระยะเพื่อช่วยลดการเกิดตาแห้ง
นอกจากนี้ ตำแหน่งจอ ก็มีความสำคัญ โดยจะใช้หลัก 1/2/10 ตำแหน่งมือถือควรห่างจากตัวเรา 1 ฟุต คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุค 2 ฟุต และ ทีวี 10 ฟุต
- ขยับร่างกาย
เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ควรมีกิจกรรมที่ได้ขยับร่างกายผ่านการเล่นหรือกีฬาอย่างน้อยวันละ 60 นาที นอกจากช่วยลดความอ้วนยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย
- กิจกรรมออฟไลน์
ไม่ควรละเลยกิจกรรมออฟไลน์ เช่น การอ่านนิทาน การเล่นบอร์ดเกม ออกกำลังกาย ทำงานศิลปะ ทำงานบ้าน เป็นต้น
- กฎกติกาในการออนไลน์
ควรติดตามการใช้จอของเด็ก เลือกรายการที่เหมาะสม ตั้งกฎกติกาให้ชัดเจน เวลาใดที่ดูได้ และดูได้กี่ชั่วโมง โดยแนะนำไม่ควรดูจอเกิน 1 ชั่วโมงต่อวันในเด็กอายุ 2 – 5 ปี และควรเป็นรายการที่มีคุณภาพและเหมาะสมต่อวัย สำหรับเด็กโต ควรรักษาสมดุลของการใช้สื่อกับกิจกรรมอื่น ๆ ในครอบครัว เช่น การทำงานบ้าน การเล่นบอร์ดเกม การออกกำลังกาย การทำการบ้าน รวมถึงกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ
สำหรับรายการที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละช่วงสามารถดูได้เพิ่มเติมทาง
– https://www.commonsensemedia.org
– https://pbskids.org
– สำหรับ youtube ในเด็กน้อยกว่า 13 ปี แนะนำให้ใช้ https://www.youtubekids.com แทน youtube ของผู้ใหญ่
นอกจากนี้ยังมี application ที่ช่วยคุณพ่อคุณแม่ดูแลการใช้มือถือของลูก เช่น google family link, net care เป็นต้น นอกจากนี้ใน ios ยังสามารถดูระยะเวลาการใช้งาน application ต่าง ๆ ได้ที่ screen time ใน setting
- ชมเชย ให้กำลังใจกันและกัน
อย่าลืมให้คำชมเด็ก ๆ ที่ร่วมมือเรียนออนไลน์หรือทำตามกติกาที่ตั้งไว้ หมั่นถามความรู้สึกหรือความเครียดของเด็ก เปิดใจและพูดคุยกัน สำหรับผู้ปกครอง ควรให้กำลังใจกันและกัน หมั่นสำรวจอารมณ์และความเครียดของตนเอง หากพบว่าเกิดความเครียด ผู้ปกครองควรหาทางช่วยเหลือ เช่น จากครู โรงเรียน หรือสมาชิกคนอื่นในครอบครัว ควรหาเวลาพักผ่อนและหากิจกรรมคลายเครียด เพราะหากผู้ปกครองมีความเครียดแล้วไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้ อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับลูกได้
แหล่งอ้างอิง
AAP, ราชวิทยาลัยกุมารเวชศาสตร์ และชมรมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแห่งประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม
คลินิกกุมารเวชกรรม
- โทร 02 849 6600 ต่อ 1121