เด็กอ้วน

เด็กอ้วนจะดูน่ารักสำหรับสายตาคนทั่วไป แต่ผลร้ายจากความอ้วนมีหลายประการรวมทั้งทำให้อายุสั้น เราจึงควรทำความรู้จักกับเด็กอ้วนดังต่อไปนี้

สาเหตุ 

  • เด็กเกิดจากครอบครัวที่อ้วน เรียกว่าเป็นพันธุกรรมเลย แรกเกิดน้ำหนักก็มาก พ่อแม่ ก็อ้วน
  • เด็กที่เจริญอาหารเป็นพิเศษ เด็กเหล่านี้ดูเหมือน “เกิดมาเพื่อเป็นเด็กอ้วน” เพราะดู อะไร ๆ ก็ อร่อยไปเสียทุกอย่าง
  • พวกที่รับประทานแต่เก็บสะสมมาก จะดูคล้ายคนมีกรรม คือรับประทานแต่ยังอ้วน เพราะไม่ ค่อยได้ออกกำลังเผาผลาญอาหารต่าง ๆ
  • อ้วนจากความผิดปกติฮอร์โมน พบน้อยกว่าพวกแรก ๆ แต่อาจจะแก้ไขได้ถ้ารักษา ถูกต้อง
  • ความไม่สบายใจ เด็กอ้วนบางคนเวลากลุ้มอกกลุ้มใจจะหาทางระบาย โดยการรับ ประทานจุ ทานจุบทานจิบ ยิ่งเครียดมาก ขาดเพื่อนยิ่งทานจุ เด็กบางคนวิตกเรื่องการเรียน กลับทานจุ บาง คนใกล้สอบอ้วนมาก สอบเสร็จแล้วจะคุมอาหารได้

การควบคุมอาหาร

อาหารเป็นส่วนสำคัญยิ่งทำให้อ้วน จึงควบคุมอาหารประเภทแป้ง ได้แก่ ข้าว กล้วย ก๋วยเตี๋ยว ของหวาน ๆ ของมัน เช่น ข้าวขาหมู ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมใส่กะทิ มาก ๆ ของทอดควรเปลี่ยนเป็นของที่ใช้ปิ้งหรือนึ่ง หรืออบ เพื่อลดแคลอรี ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม

การควบคุมต้องได้รับความร่วมมือจากญาติผู้ใหญ่        

ถือว่า “ญาติผู้ใหญ่” มีบทบาทสำคัญมากเพราะถ้าท่านไม่ยอมให้หลานลดน้ำหนัก แม้ว่า พ่อ – แม่ – หมอ อาจารย์ที่โรงเรียนจะพยายามเท่าใดก็ไม่สำเร็จ เพราะท่านมักจะเรียกไปรับ ประทานอาหารด้วย จึงควรอธิบายให้ญาติผู้ใหญ่ฟังถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

อันตรายจากความอ้วน

  • ทำให้การพัฒนาอาจจะล่าช้า เช่น ในเด็กหัดนั่ง หัดคลาน หัดเดิน อาจทำให้ล่าช้ากว่าเด็ก ปกติ เวลาพลัดตกหกล้มจะเจ็บมากกว่าเด็กธรรมดาเนื่องจากน้ำหนักมาก เล่นกีฬาไม่ได้ดี
  • ทำให้กระดูกและข้อต่อเสื่อมสภาพเร็วกว่าวัยอันสมควร เนื่องจากต้องรับน้ำหนักมากอยู่ นาน
  • ทำให้เกิดโรคเบาหวาน อาหารที่รับประทานมากโดยเฉพาะแป้งและ น้ำตาลจะทำให้ ตับอ่อน ทำงาน จนกลายเป็นโรคเบาหวาน
  • ทำให้การเรียนเลวลง เนื่องจากเด็กอ้วนบางคนถูกเพื่อนฝูงล้อเลียนจนเกิดความอับอาย และเข้า เพื่อนฝูงไม่ได้ เก็บตัว ไม่คบหากับใคร การเรียนและสมาธิเลวลง แต่บางคนก็พยายาม ปรับตัวเอง จนยอมตัวเป็นตัวตลกในหมู่เพื่อนฝูง ๆ เวลาถูกล้อเลียน
  • อ้วนมาก ๆ หายใจไม่สะดวก เกิดอาการ “หัวใจล้มเหลว” ตายโดยฉับพลัน

การควบคุมอาหารตามวัย

ในวัยอายุ 1-2 ปี ควรได้อาหารเสริมพอควร ได้นมวันละ 2-3 แก้ว หรือขวดละ 8 ออนซ์
วัยเกิน 2 ปี ถึงวัยรุ่น คุณแม่ควรควบคุมอาหารให้เด็กแข็งแรงและสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ ควรจะอ้วน มาก ควรลดพวกอาหารหวานจัด, มันจัด ซึ่งทำให้อ้วน แต่อาหารโปรตีนทำให้เด็ก เติบโตและไม่ อ้วนควรได้รับตามปกติ คุณเอง ถ้าอยากทราบว่า “อ้วนไปไหม”    ทำดังนี้
คุณผู้ชาย ส่วนสูง – 100 ซม. = น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับทุกคน
คุณผู้หญิง ส่วนสูง– 110 ซม. = น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับทุกคน

แต่ในเด็กเล็กๆ เราจะใช้ตารางการเจริญเติบโตบอกได้ว่าลูกอ้วนเกินไปหรือไม่ คุณพ่อ คุณ แม่หมั่นสังเกตดู ถ้าเริ่มอ้วน ให้ทำดังนี้
1.ควบคุมอาหาร
2.เพิ่มการออกกำลังกาย
3.ถ้ายังไม่สำเร็จ

โปรดนำไปพบแพทย์เพราะอาจจะต้องการยาที่ช่วยในการ รักษาโรคอ้วน โดยเฉพาะ ครอบครัวที่มีผู้เป็นเบาหวาน โอกาสเด็กจะเป็นโรคเบาหวานได้มาก กว่าเด็กปกติ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ถุงใต้ตาและร่องใต้ตา

ถุงใต้ตาและร่องใต้ตา (Baggy Eyelid and Tear Trough Deformity) โดย นพ. เอกชัย เลาวเลิศ   (ภาพแสดงลักษณะถุงใต้ตา และร่องใต้ตา) ถุงใต้ตาทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า และดูมีอายุ ไม่สดใส ร่วมกันกับการมีร่องใต้ตาที่ลึก เมื่อถ่ายรูป และยิ้ม อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจที่จะยิ้ม หรือแสดงสีหน้า สร้างความลำบากในการเข้าสังคม และเสียบุคลิกภาพ (ภาพแสดงลักษณะกายวิภาคการเกิดถุงใต้ตา) ถุงใต้ตาเกิดจากลักษณะเอ็นยึดใต้เบ้าตา (Orbital Retaining Ligament) และเอ็นยึดเบ้าส่วนร่องน้ำตา (Tear Trough Ligament) หย่อน (Attenuation) เห็นเป็นร่องชัด และมีถุงไขมันใต้ตาชั้นลึก (Retroseptal Fat Pad) เริ่มขยายและหย่อนตัวลง (herniation) เหนือเอ็นยึด ทำให้เห็นเป็นถุงปูดเหนือร่องใต้เบ้าตา (ภาพแสดงการแก้ไขจัดเรียงไขมันถุงใต้ตา) เพื่อให้ร่องชัดน้อยลง และเห็นถุงปูดน้อยลง สามารถแก้ไขได้โดยการสลายเอ็นยึดดังกล่าว และจัดเรียงไขมัน หรือนำออกบางส่วนเพื่อให้ระหว่างเบ้าตา และใบหน้าส่วนแก้ม (Lid-Cheek Junction) มีร่องลึกรอยต่อที่เห็นได้ชัดน้อยลง […]

GJ E-Magazine เล่มที่ 30

GJ E-Magazine ฉบับที่ 30 (เดือนมกราคม 2568) “การรักษาด้วยออกซิเจนบำบัดแรงดันสูง” คลิกที่นี่เพื่ออ่าน   ไฟล์ขนาดใหญ่สำหรับพิมพ์ : คลิกที่นี่

สมุนไพรต้านอากาศหนาว

สมุนไพรต้านอากาศหนาว พจ.รณกร โลหะฐานัส ตามตำราแพทย์จีน ความเย็น เป็นลมฟ้าอากาศหลักในฤดูหนาว ในฤดูหนาวมีโอกาสป่วยจากความเย็นได้ง่าย ถ้ารักษาความอบอุ่นของร่างกายไม่เพียงพอ เช่น อยู่ในที่มีอากาศหนาวเย็นเกินไป สวมใส่เสื้อผ้าบางเกินไป โดนฝน แช่อยู่ในน้ำเย็นนานเกินไป จะมีโอกาสเจ็บป่วยจากความเย็นได้ง่าย คุณสมบัติของความเย็นและการเกิดโรค ความเย็นชอบทำลายหยาง ความเย็นเป็นอิน ปกติลมปราณอินจะถูกควบคุมด้วยลมปราณหยาง อินเพิ่มทำให้หยางป่วย เกิดจากลมปราณอินเพิ่มขึ้นและย้อนไปข่มหยาง ลมปราณหยางไม่สามารถสร้างความอบอุ่นเป็นพลังผลักดันการทำงานของร่างกายจึงเกิดกลุ่มอาการเย็น เช่น ถ้าความเย็นมากระทบที่ส่วนนอกของร่างกายผลักดันหยางให้เข้าไปอยู่ในร่างกาย จะทำให้มีอาการกลัวหนาว เหงื่อไม่ออก ปวดศีรษะ ปวดตัว ปวดข้อ ถ้าความเย็นกระทบกระเพาะอาหาร จะทำให้ปวดเย็นในท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ถ้าความเย็นกระทบปอด จะทำให้ไอ หอบ มีเสมหะใส ถ้าความเย็นกระทบไต จะทำให้ปวดเย็นที่เอว ปัสสาวะมาก บวมน้ำ ความเย็นทำให้หยุดนิ่ง ติดขัด เมื่อความเย็นเข้าทำลายหยาง ทำให้เลือดลมไม่ไหลเวียน เกิดการติดขัดและปวดขึ้น ถ้าให้ความอบอุ่นจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น อาการปวดทุเลาลง ความเย็นทำให้หดเกร็ง เมื่อความเย็นมากระทบส่วนนอกของร่างกาย ทำให้ผิวหนังหดตัว รูขุมขนปิด เส้นลมปราณตีบตัน หยางที่ปกป้องร่างกายไม่ไหลเวียนมาที่ส่วนนอก ทำให้เป็นไข้ กลัวหนาว เหงื่อไม่ออก […]

การรักษาทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูด้วยเลเซอร์กำลังสูง

High Power Laser Therapy การรักษาทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูด้วยเลเซอร์กำลังสูง โดย พญ.เยาวพา ฉันทไกรวัฒน์ เลเซอร์กำลังสูง (Laser Class IV) คือคลื่นที่ถูกสังเคราะห์ให้มีความยาวคลื่นเดียว (Monochromaticity) ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ด้วยตาเปล่า (Invisible Light) มีกำลัง 0.5 วัตต์ขึ้นไป มีความยาวคลื่นที่สม่ำเสมอ (Directionality) มีทิศทางของคลื่นที่แน่นอน สามารถลงลึกถึงตำแหน่งที่รักษาได้ประมาณ 6 ซม. ข้อแตกต่างจากเลเซอร์ทั่วไป : ส่งพลังงานได้สูง รวดเร็ว ลงตำแหน่งที่ทำการรักษาได้ลึก ข้อดี : ผู้ป่วยไม่รู้สึกปวดขณะทำการรักษา ค่อนข้างเห็นผลได้ทันทีหลังการรักษา ใช้เวลาไม่นาน 5-10 นาทีต่อตำแหน่งที่ทำการรักษา รักษาได้ทั้งโรคเฉียบพลันไปจนถึงเรื้อรัง   ประโยชน์ของการรักษาด้วยเลเซอร์กำลังสูง กระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อให้มีการซึมผ่านของของเหลวผ่านหลอดเลือดได้ดี ช่วยลดอาการบวม ช้ำ ที่ตำแหน่งของการรักษา ลดการสังเคราะห์โปรตีนที่ทำให้เกิดอาการปวด ลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดอาการอักเสบเฉียบพลัน กระตุ้นการซ่อมสร้างหลอดเลือด กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาท กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวในกระบวนการเสริมภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมให้มีกระบวนการหายของบาดแผล สร้างคอลลาเจน […]