โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นในเด็ก

ความรู้ทั่วไป, โรคทางหู คอ จมูก   ลงวันที่

โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นในเด็ก (Obstructive Sleep Apnea : OSA)

โดย พญ. ศิริลักษณ์ ผลศิริปฐม

อาการและอาการแสดง

โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) หมายถึง ความผิดปกติของการหายใจในขณะหลับที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้เกิดการหยุดหายใจหรือหายใจแผ่ว โดยมีอาการและอาการแสดงได้แก่

อาการ ได้แก่

  • นอนกรนบ่อยมากกว่า 3 คืนต่อสัปดาห์
  • หายใจแรงกว่าปกติในขณะนอนหลับ
  • มีหยุดหายใจหรือหายใจดังเฮือก
  • ปัสสาวะรดที่นอน
  • นอนในท่านั่งหลับหรือแหงนคอขึ้น
  • ริมฝีปากเขียว ตัวเขียว
  • ปวดศีรษะตอนตื่นนอน
  • ผล็อยหลับหรือง่วงมากผิดปกติเวลากลางวัน
  • มีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ซุกซนผิดปกติหรือสมาธิสั้น ก้าวร้าว
  • มีปัญหาการเรียน

อาการแสดง ได้แก่

  • น้ำหนักหนักน้อยหรืออ้วนกว่าเกณฑ์
  • ต่อมทอลซิลโต
  • คางเล็กหรือสั้น
  • หน้าอะดีนอยด์
  • เพดานปากโค้งสูงหรือโหว่
  • การเจริญเติบโตช้ากว่าเกณฑ์
  • ความดันโลหิตสูง

ภาวะแทรกซ้อนจากโรค  OSA

ภาวะ OSA หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้หลาย

ระบบได้แก่

  1. ระบบประสาทและพฤติกรรม อาจพบปัญหาได้หลายอย่าง เช่น กลุ่มพฤติกรรมที่มีการซุกซนมากผิดปกติ (hyperactive) โรคสมาธสั้น(attention deficit and hyperactivity disorders : ADHD) หรืออาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นต้น
  2. ระบบหัวใจและหลอดเลือดได้แก่ ความดันโลหิตสูง หัวใจห้องซ้ายหนาตัวขึ้น และหากอาการรุนแรงจนมีภาวะพร่องออกซิเจนในเลือดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะทำให้มีความดันเลือดในปอดสูง(pulmonary hypertension) และทำให้ หัวใจห้องล่างขวาล้มเหลว(right-sided heart failure ) ตามมา
  1. ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ปัญหาโรคอ้วน การสะสมไขมันที่ผิดปกติเป็นต้น

 

การวินิจฉัยโรค OSA ในเด็ก

การซักประวัติ

เกี่ยวกับการกรน การหยุดหายใจ รวมถึงการปัสสาวะรดที่นอน และประวัติเกี่ยวกับอาการในเวลากลางวัน เช่น อ้าปากหายใจ คัดจมูกการซุกซนมากผิดปกติ ผลการเรียน เป็นต้น

การตรวจร่างกาย

เช่น การประเมินขนาดของอะดีนอยด์และทอนซิล การตรวจจมูก การประเมินลักษณะโครงสร้างใบหน้า เป็นต้น

การตรวจเพิ่มเติม

  1. การถ่ายภาพทางรังสีของกะโหลกศีรษะด้านข้าง เพื่อใช้ประเมินขนาดของอะดีนอยด์
  2. การส่งกล้องตรวจทางเดินหายใจส่วนบน สามารถใช้ในเด็กโตที่ให้ความร่วมมือ
  3. การตรวจค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนขณะหลับ (overnight pulse oximetry) เป็นการหาระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดขณะหลับ สามารถนำมาใช้เป็นการตรวจคัดกรองโรค OSA ในเด็กได้ถ้าผลเป็นบวก ผู้ป่วยจะมีโอกาสเป็น OSA ได้สูง แต่ถ้าผลเป็นลบไม่สามารถตัดโรค OSA ออกไปได้ ยังต้องส่งผู้ป่วยไปตรวจการนอนหลับชนิด เต็มรูปแบบ (Polysomnography, PSG) ต่อไป
  4. การตรวจการนอนหลับชนิด เต็มรูปแบบ (Polysomnography, PSG) เป็นการตรวจมาตรฐานสำหรับการวินิจฉัย OSA

แนวทางการรักษาผู้ป่วยเด็กที่มีโรค OSA

  1. การรักษาโดยการผ่าตัดต่อมอดีนอยด์และทอลซิล เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในผู้ป่วยเด็กที่มีโรค OSA ที่มีต่อมทอนซิลและ/หรืออะดีนอยด์โต
  2. การใช้ยาพ่นจมูกกลุ่มสเตียรอยด์ ควรใช้ในผู้ป่วยเด็กที่มีโรค OSA ระดับความรุนแรงน้อยหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดต่อมทอนซิลและ/หรืออะดีนอยด์ได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากการตอบสนองต่อยาในผู้ป่วยแต่ละรายอาจแตกต่างกัน และหลังหยุดใช้ยาอาจมีอาการกลับมาได้
  1. การใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกชนิดต่อเนื่องใช้ในกรณี

– ผู้ป่วยที่ให้การรักษาด้วยการผ่าตัดต่อมทอนซิลและ/หรืออะดีนอยด์แล้วยังมีอาการของOSA หลงเหลืออยู่

– OSA ที่สัมพันธ์กับภาวะอ้วน, โรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ และโครงสร้างใบหน้าผิดปกติที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ได้สำเร็จ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม

บทความที่เกี่ยวข้อง

มะเร็งปอด

มะเร็งปอด นพ.คมน์สิทธิ์ ทองธรรมชาติ (อายุรศาสตร์มะเร็งว […]