โรคอ้วนในเด็ก

ความรู้เด็ก   ลงวันที่

“ โรคอ้วนในเด็ก                                     

“เด็กอ้วน” น่ารัก หรือ น่าห่วง? ผู้ใหญ่หลายคนมักจะคิดว่า “เด็กอ้วน” คือเด็กน่ารัก น่ากอด  แต่หารู้ไม่ว่า การที่พ่อแม่อยากให้เด็กๆอ้วน เป็นความเชื่อที่ผิด เนื่องจากความอ้วนอาจส่งผลเสียต่อตัวเด็กได้ ซึ่งถ้าปล่อยให้เด็กอ้วนต่อไปเรื่อย ๆ ในระยะยาวจะมีปัญหาสุขภาพมากมายตามมา จากการสำรวจพบว่ามีเด็กทั่วโลกเป็นโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้นและยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง

สาเหตุของโรคอ้วนในเด็ก

โรคอ้วนในเด็กประกอบด้วยหลายปัจจัย เช่น การบริโภคอาหารที่เปลี่ยนไปในยุคที่มีความทันสมัยขึ้น เต็มไปด้วยอาหารเร่งด่วน หวาน มัน เค็ม และมีพลังงานสูง รวมถึงกิจกรรมทางกายและการออกกำลังกายที่น้อยลง ทำให้การใช้พลังงานน้อยกว่าพลังงานที่ได้รับในแต่ละวัน พลังงานส่วนเกินที่สะสมเรื่อย ๆนั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้เด็ก ๆ ห่างไกลจากโรคอ้วนในได้ ด้วยการดูแลการรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามโภชนาการ

อันตรายจากโรคอ้วนในเด็ก

  • โรคอ้วนในเด็กมีผลเสียต่อสุขภาพหลายด้าน โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถพบได้แม้กระทั่งในเด็กอายุน้อย ๆ ที่มีโรคอ้วนอีกด้วย
  • การเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้แก่ ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นขณะหลับ ส่งผลเสียถึงการนอนที่ไม่เพียงพอและอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็กด้วยเช่นกัน ทำให้เด็กไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
  • ผลกระทบทางด้านจิตใจ เช่น การถูกเพื่อนล้อเรื่องรูปลักษณ์ จนทำให้เกิดความเครียด ไม่มั่นใจในตัวเอง และอาจเป็นโรคทางจิตเวชได้

 

สิ่งที่ผู้ปกครองควรตระหนัก

 

  • ควบคุมปริมาณอาหาร ให้เด็กรับประทานแต่พออิ่มในสัดส่วนที่เหมาะสม และไม่บังคับให้เด็กกินจนหมดจาน ทั้ง ๆที่เด็กรู้สึกอิ่มแล้ว
  • เลือกผักและผลไม้ที่มีกากใยเป็นประจำ ถ้าเด็กไม่ชอบกินผัก ควรมีวิธีจูงใจให้เด็กหันมารับประทานผัก เช่น สอดแทรกผักทีละน้อย หลากหลายสีสันในเมนูอาหารให้น่ารับประทาน
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ของทอด ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยวในร้านสะดวกซื้อที่ไม่มีประโยชน์ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และน้ำอัดลม
  • ไม่ปล่อยให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน เช่น คอมพิวเตอร์ ทีวี ไอแพด แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น เพราะจะทำให้เด็กมีอาการติด และไม่มีเวลาออกกำลังกาย
  • ปล่อยให้เด็กได้วิ่งเล่นตามวัย เล่นกีฬาที่ชอบ และมีเวลาออกกำลังกายเพื่อให้เด็กได้ใช้พลังงานส่วนเกิน
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กโดยฝึกให้รู้จักทำงานบ้านช่วยเหลือผู้ปกครอง ซึ่งถือเป็นการออกำลังกายอย่างหนึ่ง
  • ให้เด็กเข้านอนให้เป็นเวลาและนอนให้เพียงพอ เพราะการนอนดึกหรือนอนน้อยนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของความอ้วน

 

 

จัดทำโดย: งานโภชนาการ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โทร 02-8496600 ต่อ 1084/1085

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: สาเหตุโรคอ้วนในเด็ก “กินให้หมดจาน!” www.th.theasianparent.com , รายงานสุขภาพคนไทยปี 2557

             ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ thaihealthcentre, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงสาธารณสุข

             ผศ. พญ.อรพร ดำรงวงศ์ศิริ. โรคอ้วนในเด็ก ความน่ารักที่แฝงด้วยอันตราย”  สาขาวิชาโภชนวิทยา

             ภาควิชากุมารเวชศาสตร์. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่ม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปอดอักเสบในเด็ก

ปอดอักเสบในเด็ก โดย พญ. พิชญา สถิตพัฒนพันธ์ กุมารแพทย์โรคระบบการหายใจ   รู้จักโรคปอดอักเสบ ปอดบวม / ปอดอักเสบ (Pneumonia) การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่าง ได้แก่ เนื้อปอด หลอดลมฝอย อาการไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย ได้แก่ หายใจแรง หายใจเร็ว หายใจซี่โครงบาน อกบุ๋ม หายใจปีกจมูกบาน กินได้น้อยลง ซึม หลับเยอะกว่าปกติ เหนื่อย แน่นหน้าอก   ไข้หวัด (Common Cold) การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน อาการไข้ ไอ มีเสมหะ มีน้ำมูก ไม่มีอาการหายใจเหนื่อย   การตรวจที่โรงพยาบาล ซักประวัติร่างกาย วัดไข้ วัดอัตราการหายใจ วัดออกซิเจนปลายนิ้ว ฟังเสียงปอด NasoPharyngeal Swab หาเชื้อไวรัสเจาะจงเมื่อมีการระบาด ส่งตรวจเพิ่มเติม ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด   การรักษา […]

ภูมิแพ้สัตว์เลี้ยงที่มีขน

สัตว์เลี้ยงที่มีขน สัตว์เลี้ยงที่มีขน เช่น แมว สุนัข กระต่าย หนูตะเภา หนูแฮมสเตอร์ เป็นต้น  มีสารก่อภูมิแพ้ที่มาจากรังแค ขน หรือสิ่งขับถ่ายของสัตว์ สารก่อภูมิแพ้จากแมวและสุนัขมีขนาดเล็ก ทำให้ลอยอยู่ในอากาศได้นาน ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการของโรคภูมิแพ้หลังเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีแมวและสุนัข แม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสโดยตรง สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้มีลักษณะเหนียว จึงสามารถติดตามพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ เบาะผ้า ผ้าม่าน ที่นอน และเสื้อผ้าได้ง่าย   การควบคุมและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้จากขน รังแคสัตว์ หากมีการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์ ควรงดเลี้ยงสัตว์ หรือนำสัตว์เลี้ยงออกจากบ้าน ในกรณีที่ต้องเลี้ยงไว้ภายในบ้าน ควรอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ทำความสะอาดพรม และเฟอร์นิเจอร์ที่เก็บฝุ่นให้สะอาด เพราะเป็นแหล่งสะสมของสารก่อภูมิแพ้ ใช้เครื่องฟอกอากาศชนิดพิเศษแบบ HEPA fitter จะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ จากสัตว์เลี้ยงที่มีขนได้

วิธีการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ

อาการคัดจมูกและมีน้ำมูกมาก จะพบได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้และเป็นโรคโพรงไซนัสอักเสบ อาการดังกล่าวสามารถที่จะรักษาได้ โดยการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ  น้ำเกลือที่ผ่านเข้าไปในจมูกจะชะล้างน้ำมูก หนอง และสารที่ไม่ต้องการออกจากโพรงจมูก ทำให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกขึ้นและหายจากโรคได้เร็วขึ้น           วิธีการ เตรียมน้ำเกลือโดยใช้น้ำต้มสุก หรือน้ำสะอาดสำหรับดื่มปริมาณ 500 ซีซี ใส่เกลือสะอาดประมาณ 1 ช้อนชา เขย่าผสมเข้ากันให้หรือ ใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 9% หรือน้ำเกลือของสำหรับล้างจมูก ซึ่งหาซื้อได้จากโรงพยาบาลหรือตามร้านขายยา เทน้ำเกลือที่ผสมแล้วลงในแก้วสะอาดแล้วใช้กระบอกฉีดยาขนาด 10-20 ซีซี ดูดน้ำเกลือเข้าไปให้เต็ม ยืนใกล้อ่างน้ำ ก้มหน้าเล็กน้อยสอดกระบอกฉีดยาเข้าไปในรูจมูก พ่นน้ำเกลือเข้าในจมูกขณะที่กลั้นหายใจ น้ำเกลือจะถูกพ่นเข้าไปสู่โพรงจมูกแล้วไหลออกมาข้างเดียวกัน หรือออกมาจากรูจมูกอีกข้างหนึ่งหรืออาจจะไหลลงคอ บางครั้งอาจจะมีหนองไหลออกมาด้วย ทำทั้ง 2 ข้างล้างจนกว่าไม่มีน้ำมูกเหลือค้างในจมูกอาจจะแสบจมูกเล็กน้อย   หมายเหตุ หลังจากที่ล้างจมูกแล้ว ผู้ป่วยอาจจะจาม และมีน้ำมูกไหลออกมาอีกได้ ให้สั่งน้ำมูกให้หมด (หรือล้างจมูกอีกครั้งหนึ่ง) แล้วพ่นยา พ่นจมูก ตามที่แพทย์แนะนำ ไม่ควรชะล้างจมูกในช่วงที่จมูกมีเลือดออกได้ง่าย หรือในกรณีที่แพทย์ไม่แนะนำให้ล้างจมูก

ละอองเกสรจากหญ้าต้นไม้ และ วัชพืช

ละอองเกสรจากหญ้าต้นไม้ และ วัชพืช สารก่อภูมิแพ้จากละอองเกสรจากหญ้า ต้นไม้ และวัชพืชสามารถก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหืด โรคเยื่อจมูกและตาอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งละอองเกสรเหล่านี้จะมีอนุภาคขนาดเล็ก สามารถปลิวได้ใกลหลายกิโลเมตร ทำให้เกิดอาการในผู้ที่แพ้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ปลูกต้นไม้ หรือหญ้าไว้ในบ้านก็ตาม โดยชนิดและปริมาณของละอองเกสรจะแตกต่างกันตามฤดูกาลและภูมิประเทศ   ละอองเกสรพืชที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในประเทศไทย ได้แก่ เกสรหญ้าแพรก (Bermuda grass) เกสรหญ้าพง (Johnson grass) เกสรวัชพืช เช่น ผักโขม (Careless weed) สปอร์ของเฟิร์นต่างๆ เกสรพืชยืนต้น เช่น กระดินณรงค์ (Acacia) กระถิ่นณรงค์ (Acacia)   การควบคุมและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้จากละอองเกสร ควรเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำสระผม เมื่อสัมผัสหรือกลับจากบริเวณที่มีละอองเกสรหญ้า วัชพืช และต้นไม้ ควรปิดประตูหน้าต่าง ในช่วงฤดูที่มีการกระจายของละอองเกสรโดยเฉพาะเดือนกันยายน – กุมภาพันธ์ของทุกปี เพราะจะมีการกระจายของละอองเกสร มากในประเทศไทย การติดตั้งเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศระบบ HEPA filter อาจช่วย ลดสารก่อภูมิแพ้จากละอองเกสรได้ […]